เสือ-มังกร หรือ Dragon-Tiger เป็นเกมการพนันในคาสิโนออนไลน์ที่ตัดสินแพ้ชนะในเวลาอันรวดเร็วด้วยไพ่เพียงใบเดียว เป็นเกมที่เล่นง่ายมาก หลายคนอาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างแตกต่างจากเกมไพ่ทั่วไปในคาสิโน แต่ถ้าสังเกตดีๆ เค้าโครงการเล่นจะใกล้เคียงกับเกมไพ่บาคาร่าและไพ่ป๊อกเด้งเป็นอย่างมาก โดยในช่วงแรกๆ เกมนี้ผู้เล่นจะวางเดิมพันได้เพียงสามรูปแบบนั่นก็คือ ทายว่าฝั่งเสือกับฝั่งมังกรฝ่ายไหนจะชนะ และ ทายว่าเสมอกัน
แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้รูปแบบการวางเดิมพันหลากหลายมากขึ้น โดยมีการเพิ่มให้สามารถทายผลไพ่คู่-คี่, สูง-ต่ำ และ ดำ-แดง ได้อีกด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีอัตราในการจ่ายรางวัลแตกต่างกันออกไป โดยการทายผลเสมอและถูกจะได้รับเงินรางวัลมากสุดหรือก็คือได้ถึง 8 เท่า จากเงินที่นำมาวางเดิมพัน แต่ก็เป็นผลที่ออกยากกว่ารูปแบบอื่นด้วยเช่นกัน ที่นี่มาดูกันต่อดีกว่าวางเดิมพันแบบไหนแล้วมีอัตราการจ่ายเท่าไหร่ เพื่อช่วยให้นักพนันตัดสินใจวางเดิมพันได้ง่ายขึ้น ซึ่งอัตราในการจ่ายของแต่ละเว็บไซต์จะคล้ายคลึงกัน โดยจะมีรูปแบบดังต่อไปนี้
– วางเดิมพันฝั่งเสือแล้วชนะ มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 1 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งมังกรแล้วชนะ มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 1 เท่า
– วางเดิมพันเสมอแล้วชนะ มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 8 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งเสือคู่ (ทายว่าฝั่งเสือจะออกเลขคู่) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 1.05 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งเสือคี่ (ทายฝั่งเสือจะออกเลขคี่) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 0.75 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งมังกรคู่ (ทายฝั่งมังกรจะออกเลขคู่) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 1.05 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งกรคี่ (ทายฝั่งมังกรจะออกเลขคี่) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 0.75 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งเสือดำ (ทายฝั่งเสือจะได้ดอกสีดำ) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 0.90 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งเสือแดง (ทายฝั่งเสือจะได้ดอกสีแดง) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 0.90 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งมังกรดำ (ทายฝั่งมังกรจะได้ดอกสีดำ) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 0.90 เท่า
– วางเดิมพันฝั่งมังกรแดง (ทายฝั่งมังกรจะได้ดอกสีแดง) มีอัตราในการจ่ายรางวัลอยู่ที่ 0.90 เท่า
สำหรับเคล็ดลับง่ายๆ ในการช่วยให้ชนะก็คือ แนะนำให้ดูจากผลการออกรางวัลย้อนไปสัก 5-10 เกม แบบไหนออกมากสุดให้แทงตามนั้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มโอกาสทำเงินให้กับผู้เล่นกันได้แล้ว