การเล่นบาคาร่า โดยทั่วไปแล้วจะมีวิธีในการเล่นเหมือนไพ่ป๊อกเด้ง โดยผู้ชนะจะต้องมีแต้มไพ่ในมือใกล้เคียง 8 และ 9 มากที่สุด แต่การเล่นออนไลน์จะเป็นลักษณะให้ผู้เล่นทายว่าฝั่งผู้เล่น (PLAYER) หรือ ฝั่งเจ้ามือ (BANKER) ใครจะชนะ และจะชนะแบบไหน โดยจะมีการกำหนดรูปแบบให้เราวางเดิมพัน เช่น เดิมพันว่าผู้เล่นชนะหรือเจ้ามือชนะ, เดิมพันเสมอ, เดิมพันว่าฝ่ายไหนจะได้ไพ่คู่, เดิมพันดับเบิ้ลเดี่ยว, เดิมพันดับเบิ้ลคู่, เดิมพันไพ่เล็ก และ เดิมพันไพ่ใหญ่ เป็นต้น สำหรับวิธีการนับแต้มหน้าไพ่จะมีลักษณะดังนี้
ภาพจาก fifa55hero.net
วิธีนับแต้มไพ่บาคาร่า
– หมายเลข 0 มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม, ไพ่ J , Q , K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม, ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม และ หมายเลข 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 จะค่าเท่ากับตัวเลขที่อยู่หน้าไพ่
– วิธีนับแต้มคะแนนรวม จะนับแต้มจากหลักหน่วย โดยดูจากหน้า 2 ใบที่ได้รับแจกจากเจ้ามือ เช่น หากไพ่ในมือมีแต้มเป็น 6 และ 7 ผลรวมจะเท่ากับ 13 ให้นับหลักหน่วยก็คือ 3 แต้มนั่นเอง หรือถ้าไพ่ในมือเป็น K และ 6 ผลรวมจะเท่ากับ 6 แต้ม
– วิธีการเรียกไพ่ป๊อกหรือไพ่ในมือรวมกันแล้วได้แต้ม 8 หรือ 9 จะเรียกว่า Natural, ป๊อก 8 เรียกว่า La Petite (เลเพไทท์), ป๊อก 9 เรียกว่า Le Grande (เลแกรนด์) และ ไพ่ที่มีแต้มเท่า 0 ได้แก่ K, Q, J และ 10 จะเรียกว่า Monkey (มังกี้)
ภาพจาก snapufabet.com
สูตรการเล่นบาคาร่า
– วางเดิมพัน สูตรมังกร หากในระหว่างกันเล่นมีผลออกเดิมๆ ซ้ำ เกินกว่า 4 ครั้ง ให้เราแทงตามรูปแบบเดิมได้เลย นักพนันส่วนใหญ่เรียกวิธีนี้ว่าสูตรมังกร
– วางเดิมพัน สูตรปิงปอง ในระหว่างการเล่นผลจะออกสลับไปมาระหว่างฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือ ลักษณะเหมือนกันตีปิงปองโต้ไปโต้กันมา และนี่ก็คือที่มาของชื่อสูตรเช่นกัน
– วางเดิมพัน สูตรไพ่คู่ เป็นการทายผลว่าจะออกไพ่คู่ ผู้เล่นส่วนใหญ่จะวางเดิมพันส่วนนี้เผื่อไว้แต่ไม่มากประมาณ 10% เพราะถ้าทายถูกจะได้เงินรางวัลถึง 11 เท่า
– วางเดิมพัน สูตรผลเสมอ หรือ Tie ซึ่งต้องบอกว่าจากสถิติที่ผ่านมาผลเสมอจะออกค่อนข้างบ่อย ดังนั้นทุกครั้งที่คิดจะวางเดิมพันในบาคาร่า อย่าลืมเลือกแทงเสมอเอาไว้ด้วย ก็จะช่วยให้ถึงแม้ว่าคุณแทงแบบอื่นพลาดก็ยังมีผลเสมอช่วยให้ขาดทุนน้อยลง หรืออาจเพียงแค่ขาดทุนกำไร
บาคาร่าเป็นเกมที่เล่นง่าย แถมอัตราในการจ่ายค่อนข้างดี หากคุณกำลังมองหาเกมการพนันเพื่อทำกำไร มาเล่นเกมนี้รับรองไม่ผิดหวัง