เกมน้ำเต้าปูปลาเรียกได้ว่าเป็นเกมพื้นบ้านที่แรกเริ่มเดิมที่นิยมเล่นกันในจีนและเวียดนาม แต่ปัจจุบันต้องบอกว่าได้รับความนิยมไปในทั่วโลก โดยในการเล่นจะใช้ลูกเต๋าทั้งหมด 3 ลูก ซึ่งแต่ละด้านของลูกเต๋าจะมีรูปแตกต่างกัน โดยจะประกอบไปด้วย น้ำเต้า ปู ปลา กุ้ง เสือ และไก่ เกมนี้จะมีจุดเด่นตรงที่คุณสามารถวางเดิมพันได้ถึง 21 วิธี มีอัตราการจ่ายน้อยสุดอยู่ที่ 1 เท่า และมากสุดถึง 150 เท่าเลยทีเดียว โดยอัตราในการจ่ายเงินรางวัลจะมีลักษณะดังนี้
– วางเดิมพันตัวเลขระหว่าง 1 – 6 หากถูก 1 ตัว มีอัตราในการจ่าย 1 เท่า
– วางเดิมพันตัวเลขระหว่าง 1 – 6 หากถูก 2 ตัว มีอัตราในการจ่าย 2 เท่า
– วางเดิมพันตัวเลขระหว่าง 1 – 6 หากถูก 3 ตัว มีอัตราในการจ่าย 3 เท่า
– วางเดิมพันแต้มรวมกัน ออกแต้มต่ำระหว่าง 4 – 10 มีอัตราในการจ่าย 1 เท่า แต่ถ้าออกตอง เจ้ามือจะเป็นฝ่ายชนะ
– วางเดิมพันแต้มรวมกัน ออกแต้มสูงระหว่าง 11 – 17 มีอัตราในการจ่าย 1 เท่า แต่ถ้าออกตอง เจ้ามือจะเป็นฝ่ายชนะ
– วางเดิมพันเต็งแต้มรวม ระหว่าง 4 – 17 โดยเลือกแทงเลข 1 ตัว หากถูกมีอัตราในการจ่าย 50 เท่า
– วางเดิมพันสีเดียว แล้วถูกตรง 1 สี มีอัตราในการจ่าย 1 เท่า
– วางเดิมพันสองสี แล้วถูกตรง 2 สี มีอัตราในการจ่าย 3 เท่า
– วางเดิมพันตองสี โดยเลือกแทงเพียงสีเดียว หากถูกมีอัตราในการจ่าย 20 เท่า
– วางเดิมพันลูกเต๋าสามตัว และผลที่ออกเป็นสีเดียวกัน หากถูกจะมีอัตราในการจ่าย 7 เท่า
– วางเดิมพันตองโดยเลือกรูปใดรูปหนึ่ง เช่น ตองปู หากถูกมีอัตราในการจ่าย 150 เท่า
– วางเดิมพันตองแบบไม่เจาะจงรูป หากถูกจะมีอัตราในการจ่าย 24 เท่า
– วางเดิมพันผลรวมของแต้ม 4 แต้ม หรือ 17 แต้ม หากถูกมีอัตราในการจ่าย 50 เท่า
– วางเดิมพันผลรวมของแต้ม 5 แต้ม หรือ 16 แต้ม หากถูกมีอัตราในการจ่าย 18 เท่า
– วางเดิมพันผลรวมของแต้ม 6 แต้ม หรือ 15 แต้ม หากถูกมีอัตราในการจ่าย 14 ต่อ
ต้องบอกว่าเกมน้ำเต้าปูปลามีอัตราในการจ่ายค่อนข้างมาก แถมเกมยังมีวิธีในการเล่นง่ายไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน รวมทั้งรูปแบบในการวางเดิมพันไม่ว่าคุณจะเล่นผ่านบ่อนหรือช่องทางออนไลน์จะมีลักษณะเหมือนกัน แต่อัตราในการจ่ายจะแตกต่างกันไปบ้าง ดังนั้นหากคิดจะเลือกเล่นเกมนี้อย่าลืมดูที่อัตราในการจ่ายกันก่อนตัดสินใจวางเดิมพัน เพื่อให้คุณได้กำไรมากขึ้นอย่างที่ต้องการ