ไพ่เสือมังกรเป็นเกมคาสิโนที่รูปแบบการเล่นจะใช้ไพ่ทั้งหมดจำนวน 52 ใบ โดยตัดเอาไพ่โจ๊กเกอร์ออก สำหรับรูปแบบในการวางเดิมพัน นักพนันต้องเลือกว่าจะวางเดิมพันฝั่งเสือหรือฝั่งมังกร โดยเจ้ามือจะทำการแจกไพ่ฝั่งละ 1 ใบ หากฝั่งไหนมีแต้มมากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะ สำหรับเกมนี้จะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มจนจบเกมเพียงแค่ประมาณ 25 วินาทีเท่านั้น สำหรับรูปแบบในการเดิมพันจะมีลักษณะดังนี้
1. วางเดิมพันมังกร จะเป็นการทายว่าแต้มไพ่ฝั่งมังกรจะมากกว่าแต้มของฝั่งเสือ เช่น ถ้าแต้มของฝั่งมังกรเท่ากับ 10 แต้ม และฝั่งเสือเท่ากับ 9 แต้ม หากนักพนันวางเดิมพันมังกรก็จะเป็นฝ่ายชนะ
2. วางเดิมพันเสือ จะเป็นการทายว่าแต้มไพ่ฝั่งเสือจะมากกว่าแต้มของฝั่งมังกร เช่น ถ้าแต้มของฝั่งเสือเท่ากับ 10 แต้ม และฝั่งมังกรเท่ากับ 9 แต้ม หากนักพนันวางเดิมพันเสือก็จะเป็นฝ่ายชนะ
3. วางเดิมพันเสมอ เป็นการทายว่า แต้มของฝั่งมังกรและแต้มของฝั่งเสือจะเท่ากัน เช่น ถ้าฝั่งเสือมีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม ฝั่งมังกรมีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม เช่นกัน หากนักพนันวางเดิมพันเสมอก็จะเป็นฝ่ายชนะ
4. วางเดิมพันมังกรคี่ เป็นการทายว่าแต้มไพ่ฝั่งมังกร จะเป็นแต้มเลขคี่ หรือก็คือ 1, 3, 5, 9, 11 และ 13 แต้ม หากนักพนันวางเดิมพันฝั่งมังกรคี่ และฝั่งมังกรแต้มไพ่เท่ากับ 9 แต้ม ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
5. วางเดิมพันมังกรคู่ เป็นการทายว่าแต้มไพ่ฝั่งมังกร จะเป็นแต้มเลขคู่ หรือก็คือ 2 , 4 , 6 , 8 , 10 และ 12 แต้ม หากนักพนันวางเดิมพันฝั่งมังกรคู่ และฝั่งมังกรแต้มไพ่เท่ากับ 8 แต้ม ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
6. วางเดิมพันเสือคี่ เป็นการทายว่าแต้มไพ่ฝั่งเสือ จะเป็นแต้มเลขคี่ หรือก็คือ 1 , 3 , 5 , 9 , 11 และ 13 แต้ม หากนักพนันวางเดิมพันฝั่งเสือคี่ และฝั่งเสือแต้มไพ่เท่ากับ 9 แต้ม ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
7. การเดิมพันเสือคู่ เป็นการทายว่าแต้มไพ่ฝั่งเสือ จะเป็นแต้มเลขคู่ หรือก็คือ 2 , 4 , 6 , 8 , 10 และ 12 แต้ม หากนักพนันวางเดิมพันฝั่งเสือคู่ และฝั่งเสือมีแต้มไพ่เท่ากับ 8 แต้ม ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
เป็นอีกหนึ่งเกมที่เล่นง่าย แถมเกมจบไวช่วยให้นักพนันทำเงินได้ดีอย่างที่ต้องการ ใครชอบเกมที่รู้ผลเร็วและทำเงินได้ไม่ยากบอกได้เลยว่าเกมนี้เหมาะสำหรับคุณ